สัญญาณเตือน ชอบกินของทอด ของมัน อาจเสี่ยงไตรกลีเซอไรด์สูง

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบกินของทอด ของมัน เช่น หมูกรอบ ไก่ทอด ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หรือขนมหวานมัน ๆ แม้จะอร่อยถูกใจ แต่รู้หรือไม่ว่าไขมันส่วนเกินเหล่านี้อาจสะสมในร่างกายในรูปแบบของ “ไตรกลีเซอไรด์” (Triglycerides) ซึ่งหากมีระดับสูงในเลือดเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ โรคหัวใจ โรคตับ หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพที่หลายคนอาจมองข้ามไป

ไตรกลีเซอไรด์สูงมีผลเสียอย่างไร ทำไมถึงต้องระวัง ?

ไตรกลีเซอไรด์ คือ ไขมันในเลือดชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นจากพลังงานส่วนเกินที่กินเข้าไป เช่น คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล ไขมัน โดยเฉพาะอาหารจำพวกของทอด ของมัน ของหวาน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อร่างกายได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น พลังงานเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์และเก็บไว้ในเซลล์ไขมัน เพื่อดึงมาใช้เป็นพลังงานในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม หากระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกิน 150 mg/dL จะถือว่าเริ่มมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และถ้าสูงกว่า 200 mg/dL ถือว่าอยู่ในระดับอันตราย ซึ่งภาวะไตรกลีเซอไรด์สูงอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ โดยตรง ดังนี้

• เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยไขมันจะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัว
• ไขมันพอกตับ หรือภาวะที่ตับสะสมไขมันมากเกินไป จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของตับลดลง
• เบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากไตรกลีเซอไรด์สูงสัมพันธ์กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
• ความดันโลหิตสูง การไหลเวียนของเลือดทำงานหนักขึ้น
• พุงโต อ้วนลงพุง เนื่องจากไขมันสะสมบริเวณช่องท้องมากผิดปกติ
• ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวานในระยะยาว

ไตรกลีเซอไรด์สูงมักมีอาการเป็นอย่างไร ?

ผู้ที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก แต่ถ้าปล่อยไว้นานโดยไม่รู้ตัว ร่างกายจะเริ่มส่งสัญญาณเตือน หากคุณเริ่มมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้รีบตรวจเลือดเพื่อวัดระดับไตรกลีเซอไรด์โดยเฉพาะ

• น้ำหนักขึ้นไว พุงโตผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
• แน่นท้อง หายใจไม่สะดวกหลังกินอาหาร เพราะไขมันในตับหรือช่องท้องเริ่มสะสม
• เจ็บชายโครงขวา เมื่อกดแล้วเจ็บ อาจสัมพันธ์กับภาวะไขมันพอกตับ
• เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เนื่องจากระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ
• ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โดยเฉพาะ LDL หรือไขมันไม่ดี
• ตรวจเลือดพบเอนไซม์ตับสูง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตับกำลังทำงานหนัก

วิธีปฏิบัติตัว เมื่อตรวจพบว่าไตรกลีเซอไรด์สูง

เมื่อผลตรวจเลือดบ่งชี้ว่ามีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ควรรีบปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตทันที เพราะสิ่งที่คุณทำอยู่เป็นประจำทุกวัน อาจเป็นสาเหตุหลักของภาวะนี้

ปรับอาหารให้สมดุล

• ลดอาหารทอดและของมัน เช่น หมูกรอบ หนังไก่ทอด มันฝรั่งทอด
• หลีกเลี่ยงของหวานจัดและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น ชานมไข่มุก ชาเย็น น้ำอัดลม
• งดอาหารฟาสต์ฟูดและแอลกอฮอล์ ซึ่งกระตุ้นการสร้างไตรกลีเซอไรด์ในตับ
• เลือกกินอาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู อะโวคาโด น้ำมันมะกอก
• เพิ่มผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไขมันต่ำ อย่างปลา เต้าหู้ หรืออกไก่

ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน
• ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและไขมันส่วนเกิน
• พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด เพราะความเครียดจะไปกระตุ้นฮอร์โมนที่เพิ่มระดับไขมันในเลือด
• งดสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่มีผลต่อการทำงานของหลอดเลือด

อย่างไรก็ดี หากพบว่าค่าไตรกลีเซอไรด์เกิน 500 mg/dL แพทย์อาจพิจารณาใช้ยา หรืออาหารเสริมที่ช่วยลดไขมันในตับและสนับสนุนระบบเผาผลาญ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนอย่างไขมันพอกตับหรือโรคหัวใจ โดยปัจจุบัน มีสมุนไพรหลายชนิดที่ช่วยดูแลตับและควบคุมไขมันในเลือด เช่น

• อาร์ติโชก (Artichoke) ช่วยส่งเสริมการทำงานของตับและลดการสะสมไขมัน
• แดนดิไลออน (Dandelion) ช่วยกระตุ้นการขับของเสียและน้ำดี
• เห็ดหลินจือ และเห็ดชิตาเกะ ช่วยลดคอเลสเตอรอลและเสริมภูมิคุ้มกัน
• โสมเกาหลี และแอสทรากาลัส ช่วยเพิ่มพลังงานและปรับสมดุลระบบเผาผลาญ

หมั่นดูแลตับและไขมันในเลือดด้วย LivPlus เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

หลายคนอาจคิดว่าพุงโตเป็นเพียงปัญหาน้ำหนักเกิน หรือผลจากการชอบกินของทอด ของมันบ่อย ๆ แต่ความจริงแล้ว เมื่อมาพร้อมกับอาการเจ็บซี่โครงขวา กดแล้วเจ็บ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าตับของคุณกำลังทำงานหนัก หรือเริ่มมีไขมันสะสมจนเกิดภาวะไขมันพอกตับโดยไม่รู้ตัว การดูแลตับตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเล็ก ๆ พัฒนาไปสู่โรคตับเรื้อรังในอนาคต

Livplus ขอแนะนำอาหารเสริมบำรุงตับจากสารสกัดธรรมชาติกว่า 12 ชนิด เช่น อาร์ติโชก แดนดิไลออน เห็ดหลินจือ โสมเกาหลี ขมิ้นชัน และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ทั้งระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และสมอง รวมถึงกระตุ้นการขับสารพิษ และลดการสะสมไขมันในตับ 

สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:  Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand

ข้อมูลอ้างอิง

1. TRIGLYCERIDES IN NAFLD: GUILTY UNTIL PROVEN INNOCENT. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 จาก https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10065162/. 
2. Triglycerides. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 จาก https://my.clevelandclinic.org/health/articles/11117-triglycerides.