สังเกตอาการคันจากโรคตับ
อาการคันจากโรคตับมีความแตกต่างจากอาการคันทั่วไป ดังต่อไปนี้
- มักมีอาการคันที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า หรือบริเวณที่สวมเสื้อผ้ารัดรูป อย่าง ขอบกางเกง ขอบเสื้อใน
- อาจมีอาการคันแบบกระจายทั่วร่างกาย หรือคันเฉพาะจุด แต่ไม่มีผื่นขึ้นที่ชัดเจน
- คันเป็นช่วง ๆ บางครั้งอาจคันจนรบกวนชีวิตประจำวัน
- ไม่ค่อยมีผื่นแดง หรือตุ่มน้ำ เหมือนโรคผิวหนังทั่วไป
- ท้องอืด แน่นท้องบ่อย
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- เจ็บชายโครงขวา
- ขับถ่ายยาก
- ท้องป่อง ท้องโต
- เท้าบวม
- ตัวเหลืองตาเหลือง
ทำไมเราถึงมีอาการคันจากโรคตับ ?
เนื่องจากตับมีหน้าที่ผลิตน้ำดีในการช่วยย่อย เมื่อตับผิดปกติระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายที่ทำงานร่วมกับตับจะเสียสมดุล รวมถึงระบบน้ำดี จึงเกิดการตกตะกอนขึ้นในถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี เมื่อท่อน้ำดีอุดตัน น้ำดีจะย้อนไปที่ตับ เข้าสู่กระแสเลือด และไหลไปทั่วร่างกายไปที่เยื่อบุตา ผิวหนัง และน้ำปัสสาวะ เมื่อน้ำดีไปสะสมอยู่บริเวณผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ จึงทำให้เกิดอาการคันตามร่างกาย
เปรียบเทียบอาการคันจากโรคตับและจากโรคทั่วไป
|
อาการคันจากโรคตับ |
อาการคันทั่วไป |
ตำแหน่ง |
คันตามฝ่ามือ เท้า ขอบเสื้อผ้า หรือทั่วตัว |
คันเฉพาะจุด หรือบริเวณที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้ |
ลักษณะผิวหนัง |
ผิวปกติ ไม่มีผื่น |
มักมีผื่นแดง ตุ่มน้ำ ตุ่มคัน |
อาการอื่น ๆ ที่มีร่วมกับอาการคัน |
ผิวเหลือง (ดีซ่าน) อ่อนเพลีย ท้องโต น้ำหนักลด |
อาจมีน้ำมูก หรือผิวแห้ง |
การตอบสนองต่อยาแก้แพ้ |
ไม่ดีขึ้น |
ดีขึ้นหลังรับประทานยา |
ระยะเวลา |
เรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์ |
เป็นไม่นาน หรือหายได้เอง |
การรักษาอาการคันจากโรคตับ
หากคุณมีภาวะอย่างที่กล่าวมาข้างต้น อย่าชะล่าใจ เพราะยิ่งหากปล่อยไว้นานจากภาวะตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง สามารถร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งตับได้ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียดและรักษาอย่างเหมาะสม ดังนี้
- รักษาที่ต้นเหตุ นั่นก็คือ รักษาโรคตับที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสตับอักเสบ ไขมันพอกตับ หรือการรักษาโรคตับแข็ง เมื่ออาการของโรคตับดีขึ้นก็จะทำให้อาการคันลดลงไปด้วย
- รับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการคัน เช่น ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines) หรือบางทีแพทย์อาจจะพิจารณาให้รับประทานยาที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
- ปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงการเกาผิวหนังแรง ๆ เพื่อป้องกันอาการติดเชื้อ และดูแลสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารบำรุงตับ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อาการคันจากสาเหตุอื่น ๆ
นอกจากอาการคันจากโรคตับแล้ว อาการคันยังเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- เกิดจากภาวะทางผิวหนัง เช่น ภาวะผิวแห้งจากอายุ อากาศ หรือจากภาวะต่าง ๆ เช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, ผิวหนังอักเสบ, ลมพิษ, สะเก็ดเงิน, ผื่นจากแมลงกัดต่อย, ตุ่มยุงกัด, การติดเชื้อราที่ผิวหนัง และหิด รวมถึงอาการคันจากการแพ้สารที่สัมผัสผิวหนัง
- เกิดจากภาวะทางระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ภาวะไตวายเรื้อรัง, ภาวะดีซ่าน, โรคตับอักเสบเรื้อรัง, เบาหวาน, ไทรอยด์เป็นพิษ, มะเร็งเม็ดเลือด และหรือเกิดจากยาที่รับประทาน
หากมีอาการคันตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า โดยที่ไม่มีผื่นแดง และไม่หายสักที อาจเกิดจากภาวะโรคตับ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกต้อง
และหากว่าต้องการฟื้นฟูและบำรุงตับ ขอแนะนำ Livplus อาหารเสริมบำรุงตับ ประกอบด้วยสารสกัดธรรมชาติ ถึง 12 ชนิด เช่น อาร์ทิโชก แดนดิไลออน ขมิ้น โสมเกาหลี ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำดีในการช่วยย่อย ตับและระบบทางเดินอาหารจึงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Facebook: Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand
ข้อมูลอ้างอิง
- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล : https://bit.ly/3dHw3o3
- โรงพยาบาลเปาโล : https://bit.ly/3PAcsTO
- หมอชาวบ้าน : https://bit.ly/3wfMMVH
- โรงพยาบาลเพชรเวช : https://bit.ly/3AzoWak
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ : https://bit.ly/3QSadfN