สำหรับคนที่สงสัยว่า “ไขมันพอกตับรักษาได้ไหม” คำตอบคือ แม้ว่าจะยังไม่มียาเฉพาะสำหรับรักษาภาวะไขมันพอกตับ แต่สามารถจัดการและฟื้นฟูได้ หากดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง เนื่องจากตับสามารถฟื้นตัวและลดการสะสมไขมันได้ แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ชัดเจน
ไขมันพอกตับคืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใด ?
ไขมันพอกตับ เป็นกลุ่มของโรคที่เกิดจากการสะสมไขมัน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ตับ
โดยสาเหตุของการเกิดภาวะไขมันพอกตับ คือ
- การดื่มแอลกอฮอล์ – เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ติดต่อกันปริมาณมากมาเป็นเวลานาน จะส่งผลต่อเซลล์ตับ จนตับไม่สามารถทำงานได้ปกติ
- ปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่
- การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง มีไขมัน หรือน้ำตาลเยอะเกินที่ร่างกายต้องการ
- โรคที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาปฏิชีวนะ ยากลุ่มสเตียรอยด์
อาการเตือนที่ไม่ควรมองข้ามของโรคไขมันพอกตับ
ภาวะเบื้องต้นของไขมันพอกตับ
✔️ จุกเสียดท้อง จนไม่อยากทานข้าว
✔️ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
3 เรื่องสุดช็อกสำหรับคนเป็นไขมันพอกตับ
ช็อกที่ 1: ทางการแพทย์ถือว่าภาวะไขมันพอกตับยัง “ไร้ยารักษา”
หมายความว่าไม่มียาตัวเดียวที่กินแล้วหายขาด แต่ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายเป็นหลัก
ช็อกที่ 2: ไขมันพอกตับพัฒนาเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้
ไขมันพอกตับสามารถพัฒนาเป็น “ตับแข็ง” และร้ายแรงถึงขั้นกลายเป็น “มะเร็งตับ” หากเป็นแล้วไม่ดูแลสุขภาพ หรือชะล่าใจ จนไขมันสะสมเป็นระยะเวลานานและส่งผลต่อสุขภาพของเราได้
ช็อกที่ 3: หากไขมันพอกตับกลายเป็นมะเร็งตับ อาจร้ายแรงถึงชีวิต
หากไขมันพอกตับถูกละเลยจนเกิดเป็นโรคมะเร็งตับแล้ว ผู้ป่วยมักมีชีวิตอยู่ได้เพียง 3-6 เดือน เท่านั้น
ไขมันพอกตับรักษาได้ไหม ? วิธีดูแลตับให้ห่างไกลไขมันตัวร้าย
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ลดอาหารจำพวกแป้ง, คาร์โบไฮเดรต, อาหารมัน, อาหารทอด, และน้ำตาล
- ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นโปรตีนที่มีคุณภาพ และผักต่าง ๆ ให้มากขึ้น
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ โดยคำนวณจากดัชนีมวลกาย
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยครั้งละ 45 นาที 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
- ลดการดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณแอลกอฮอล์ที่พอรับได้
- สำหรับผู้ชาย คือไม่เกิน 2-3 แก้วต่อวัน
- สำหรับผู้หญิง คือ 1-2 แก้วต่อวัน
- ไม่ควรทานยาบ่อย ทานเท่าที่จำเป็น และควรหลีกเลี่ยงยาที่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- ควรลด หรือเลิกสูบบุหรี่
คำตอบสำคัญ: ไขมันพอกตับรักษาหายขาดไหม ?
ไขมันพอกตับ รักษาให้หายขาดได้ หากดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
แม้ว่าจะยังไม่มียาเฉพาะสำหรับรักษาภาวะไขมันพอกตับ แต่ตับสามารถฟื้นตัวและลดการสะสมไขมันได้จนกลับมาเป็นปกติได้ แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนเพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน และอาจใช้เวลา 6-12 เดือนสำหรับการฟื้นฟูที่สมบูรณ์
รีบดูแลไขมันพอกตับก่อนสายเกินแก้ ด้วยความห่วงใยจาก “Livplus (ลิฟพลัส)”
สำหรับคนที่ยังคิดว่า “ไขมันพอกตับสามารถรักษาได้ไหม” คำตอบคือรักษาได้ แต่ต้องใช้ความอดทนและการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง การดูแลตับให้แข็งแรงเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญในการขับพิษ เผาผลาญไขมัน และสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย เมื่อตับทำงานได้ดี เราจะมีพลังงาน ระบบขับถ่ายดี และภูมิคุ้มกันแข็งแรง แต่หากปล่อยให้ไขมันสะสมต่อไป อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่แก้ไขได้ยากในอนาคต
ขอแนะนำ Livplus ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับระบบทางเดินอาหารและตับคุณภาพสูง มีสารสกัดจากธรรมชาติกว่า 12 ชนิด อาทิ อาร์ทิโชก แดนดิไลออน ขมิ้น และโสมเกาหลี ช่วยเสริมการทำงานของตับให้มีประสิทธิภาพ ลดการสะสมไขมันในตับ และสนับสนุนกระบวนการดีท็อกซ์ตับตามธรรมชาติ เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพตับสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันพอกตับ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Facebook: Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand
ข้อมูลอ้างอิง
- Bumrungrad Hospital : https://bit.ly/3WT12io
- Siphhospital Hospital : https://bit.ly/3Z0FD8N
- Phyatha Hospital : https://bit.ly/402r70G
- Bangkok Hospital : https://bit.ly/3HuwL4l
- Samitivej Hospital : https://bit.ly/3DgaIfc