You are currently viewing ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อทางไหน ? รู้ทันก่อนเสี่ยงสุขภาพตับ

ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อทางไหน ? รู้ทันก่อนเสี่ยงสุขภาพตับ

ไวรัสตับอักเสบบี เป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตับโดยตรง และยังเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคตับเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้หลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยเองก็จัดอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราการพบบุคคลติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในระดับปานกลางถึงสูง

ดังนั้น มารู้จักกับสาเหตุของโรค ช่องทางการติดต่อ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดต่อผ่านน้ำลาย และความเป็นไปได้ในการรักษาให้หายขาด เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพตับอย่างมีประสิทธิภาพ

ไวรัสตับอักเสบบีเกิดจากอะไร

ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Hepatitis B virus (HBV) ซึ่งเป็นไวรัสชนิด DNA ที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูงกว่าสารชีวภาพทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิสูง แอลกอฮอล์ หรือกรดด่างบางชนิด เชื้อไวรัสนี้จึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเมื่อตกค้างอยู่ภายนอกร่างกาย

เมื่อเชื้อไวรัส HVB เข้าสู่ร่างกาย จะมุ่งเป้าโจมตีเซลล์ตับโดยตรง ส่งผลให้เกิดการอักเสบ หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงมากพอ ก็จะสามารถกำจัดเชื้อได้หมดภายในระยะเวลา 6 เดือน ถือเป็นการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน แต่หากไม่สามารถกำจัดไวรัสได้ เชื้อจะฝังตัวอยู่ในเซลล์ตับอย่างถาวร กลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรัง ซึ่งถือเป็นภาวะเสี่ยงสูงที่อาจนำไปสู่โรคตับแข็งและส่งผลให้ค่าตับสูงจนเป็นมะเร็งตับในระยะยาว

ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อทางไหน

การติดต่อจากแม่สู่ลูก 

หญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี สามารถถ่ายทอดเชื้อไปยังทารกขณะคลอดผ่านทางเลือดและของเหลวในร่างกาย ถือเป็นช่องทางหลักที่ทำให้เด็กจำนวนไม่น้อยติดเชื้อมาตั้งแต่กำเนิด

การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย 

การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับผู้ติดเชื้อ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไวรัสสามารถถ่ายทอดผ่านของเหลวในร่างกาย เช่น เลือด น้ำอสุจิ และสารคัดหลั่งในช่องคลอด

การใช้เข็มฉีดยา หรืออุปกรณ์ร่วมกัน 

ไม่ว่าจะเป็นการใช้เข็มฉีดยา เข็มสัก ลวดเจาะหู หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง หากมีการปนเปื้อนเชื้อไวรัส ก็สามารถแพร่กระจายสู่ผู้ใช้รายต่อไปได้ทันที

การสัมผัสเลือดหรือน้ำเหลืองของผู้ติดเชื้อ 

การสัมผัสเลือดโดยตรงที่เข้าสู่บาดแผลหรือเยื่อบุตา รวมถึงน้ำเหลืองของผู้ติดเชื้อ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วย

ไขข้อสงสัย ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อผ่านน้ำลายจริงหรือไม่ ? 

ในน้ำลายของผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจมีไวรัสปะปนอยู่จริง แต่ปริมาณเชื้อในน้ำลายมักมีน้อยมาก และไม่เพียงพอสำหรับการติดเชื้อในกรณีทั่วไป เช่น การรับประทานอาหารร่วมกัน การใช้ภาชนะเดียวกัน หรือการพูดคุย

อย่างไรก็ตาม หากเกิดการแลกเปลี่ยนน้ำลาย เช่น การจูบในขณะที่มีบาดแผลในช่องปาก หรือมีปริมาณไวรัสในน้ำลายสูง ก็อาจเป็นช่องทางหนึ่งในการแพร่เชื้อได้ 

คนไข้ปรึกษาแพทย์ว่าไวรัสตับอักเสบบีรักษาหายไหม

ไวรัสตับอักเสบบีรักษาหายไหม

ประเด็นสำคัญอีกข้อที่ควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ คือ ไวรัสตับอักเสบบีรักษาหายไหม ซึ่งในปัจจุบัน การรักษาขึ้นอยู่กับระยะและประเภทของการติดเชื้อ โดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

การติดเชื้อแบบเฉียบพลัน 

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อแบบเฉียบพลัน (Acute Hepatitis B) จะสามารถหายได้เองภายใน 6 เดือน หากมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงเพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาเป็นพิเศษ เพียงดูแลสุขภาพ ลดการทำร้ายตับ และติดตามผลเลือดอย่างใกล้ชิด

การติดเชื้อแบบเรื้อรัง 

สำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อเรื้อรัง (Chronic Hepatitis B) ซึ่งหมายถึงการที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดไวรัสออกไปได้ภายใน 6 เดือน จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด 100% แต่สามารถควบคุมปริมาณไวรัสให้ลดต่ำลง ช่วยลดการอักเสบของตับ และป้องกันการเกิดโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับในระยะยาวได้ 

ไวรัสตับอักเสบบีเป็นโรคที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถแพร่กระจายได้ง่าย และหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะเรื้อรังจนเกิดโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ ดังนั้น การป้องกันและดูแลสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงหรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพตับในระยะยาว

Livplus อาหารเสริมบำรุงตับสำหรับผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพ ไม่ว่าจะต้องการป้องกันความเสื่อมของตับจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ยาต่อเนื่อง ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงจากพันธุกรรม ก็สามารถใช้เป็นตัวช่วยเสริมได้อย่างมั่นใจ เพราะผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการรับรองจาก อย. และมาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ คัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติคุณภาพพรีเมียมกว่า 12 ชนิด เช่น อาร์ติโชก เห็ดหลินจือ โสมเกาหลี แดนดิไลออน ฯลฯ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของตับ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างราบรื่น สั่งซื้อ Livplus ได้แล้ววันนี้ที่ Facebook:  Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand

ข้อมูลอ้างอิง

ความรู้เรื่องตับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือโทรสั่งซื้อสินค้า

ใส่ความเห็น