✔ เจ็บชายโครงขวา
✔ แน่นท้อง
✔ ท้องอืด
✔ ทานข้าวได้น้อย
✔ อ่อนเพลีย
✔ เหนื่อยง่าย
รู้หรือไม่อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือน บ่งบอกถึงความผิดปกติของตับ และอาจเสี่ยงเป็นภาวะไขมันพอกตับได้ หากไม่รีบดูแลรักษา และปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้เกิดการพัฒนาของโรค ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นภาวะตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับได้
ไขมันพอกตับคืออะไร ? ทำไมเป็นภัยเงียบที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว
ไขมันพอกตับ (Fatty Liver) คือภาวะที่มีการสะสมของไขมันในเซลล์ตับมากกว่าร้อยละ 5 ของน้ำหนักตับโดยรวม โดยมักไม่แสดงอาการเด่นชัดในช่วงแรก และมักตรวจพบได้บ่อยในคนที่ดูเหมือนมีสุขภาพแข็งแรงดี ภาวะนี้อาจพัฒนาไปสู่โรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
หลายคนยังเข้าใจผิดว่า โรคตับเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว “ไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์” (NAFLD) แต่กลับพบได้บ่อยในคนที่มีน้ำหนักเกิน ชอบทานอาหารมัน หวาน และไม่ออกกำลังกาย
สัญญาณเตือนของไขมันพอกตับที่ควรจับตา
แม้ไขมันพอกตับจะไม่เจ็บ ไม่ปวดในระยะแรก แต่หากเริ่มมีสัญญาณโรคไขมันพอกตับดังต่อไปนี้ ควรเริ่มเฝ้าระวังและเข้ารับการตรวจสุขภาพตับ
- เจ็บหรือแน่นบริเวณชายโครงขวา
- ท้องอืด แน่นท้อง รู้สึกจุกแม้ทานอาหารไม่มาก
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
- ทานอาหารได้น้อยลง รู้สึกแน่นเร็ว
- เท้าบวม ตัวเหลือง ตาเหลือง (กรณีตับเริ่มเสียหาย)
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน แต่เมื่อเกิดร่วมกันมากกว่า 2–3 ข้อขึ้นไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
พฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงไขมันพอกตับโดยไม่รู้ตัว
ไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าหรือกินของมันทุกวันก็สามารถเป็นโรคไขมันพอกตับได้ โดยพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นสาเหตุไขมันพอกตับที่ควรระวังมีดังนี้
- กินจุบจิบ โดยเฉพาะของหวาน ขนม ของทอด
- ไม่ออกกำลังกาย นั่งทำงานนาน ๆ
- มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วนลงพุง
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง
- รับประทานยาบางชนิดต่อเนื่อง เช่น สเตียรอยด์ ยาต้านไวรัส ยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด
- ความเครียดสะสม และนอนหลับไม่เพียงพอ
ภาวะไขมันพอกตับตรวจพบได้อย่างไร ?
การตรวจหาไขมันพอกตับไม่จำเป็นต้องรอให้มีสัญญาณโรคไขมันพอกตับก่อนเสมอไป โดยแพทย์มักแนะนำการตรวจในผู้ที่มีความเสี่ยง หรือมีค่าตับผิดปกติจากการตรวจสุขภาพทั่วไป เช่น
- ตรวจเลือด: ดูค่าการทำงานของตับ เช่น AST, ALT
- อัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound): เพื่อตรวจการสะสมไขมัน
- FibroScan: ตรวจระดับความแข็งของตับและปริมาณไขมัน
- Liver Biopsy: เจาะชิ้นเนื้อตับ (ใช้เฉพาะในกรณีที่ต้องวินิจฉัยโรคที่ซับซ้อน)
ภาวะไขมันพอกตับมีกี่ระยะ ?
ไขมันพอกตับสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับความรุนแรง ได้แก่
- NAFL (Non-Alcoholic Fatty Liver): มีไขมันสะสมในตับ แต่ยังไม่อักเสบ
- NASH (Non-Alcoholic Steatohepatitis): เริ่มมีการอักเสบและพังผืดในตับ
- ตับแข็ง (Cirrhosis): พังผืดสะสมรุนแรงจนโครงสร้างตับเปลี่ยนไป เสี่ยงเป็นมะเร็งตับ
หากตรวจพบอาการไขมันพอกตับในระยะแรก และได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง มีโอกาสสูงมากที่จะฟื้นฟูตับให้กลับมาแข็งแรงได้
แนวทางดูแลตับให้ห่างไกลไขมันพอกตับ
การรักษาไขมันพอกตับไม่มี “ยารักษาให้หายขาดแบบเฉพาะ” แต่สามารถควบคุมและฟื้นฟูตับได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น
- ควบคุมอาหาร ลดของทอด น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต
- เพิ่มผัก ผลไม้ไม่หวาน และโปรตีนดี เช่น ปลาน้ำจืด
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาที/วัน
- ควบคุมน้ำหนัก และค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- งดแอลกอฮอล์ และเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
- พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด
เสริมการฟื้นฟูตับด้วย “Livplus” อาหารเสริมจากสารสกัดธรรมชาติ
เพราะการดูแลตับให้แข็งแรงไม่ใช่แค่การรักษาโรค แต่คือการลงทุนในเรื่องสุขภาพระยะยาวที่คุ้มค่าที่สุด เพราะตับมีหน้าที่ขจัดสารพิษ เผาผลาญไขมัน และผลิตสารสำคัญที่จำเป็นต่อร่างกาย หากตับทำงานได้ปกติ ระบบอื่น ๆ ในร่างกายก็จะสมดุล ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน ภูมิคุ้มกัน หรือระบบขับถ่าย
ขอแนะนำ Livplus ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับระบบทางเดินอาหารและตับคุณภาพสูง มีสารสกัดจากธรรมชาติกว่า 12 ชนิด อาทิ อาร์ทิโชก แดนดิไลออน ขมิ้น และโสมเกาหลี ช่วยเสริมการทำงานของตับให้มีประสิทธิภาพ ลดการสะสมไขมันในตับ และสนับสนุนกระบวนการดีท็อกซ์ตับตามธรรมชาติ เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพตับสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันพอกตับ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Facebook: Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand
รวมรีวิวผู้มีภาวะท้องอืด แน่นท้อง เจ็บชายโครงขวา ที่อาการบรรเทาขึ้นหลังรับประทาน Livplus
สนใจสั่งซื้อลิฟพลัส 1 กล่องราคา 1,590 บาท
(รับราคาพิเศษกว่าใครเพียงทักแอดมิน)
ข้อมูลอ้างอิง
- Phyathai Hospital : https://bit.ly/4jj746B
- National Health Service : https://www.nhs.uk/conditions/non-alcoholic-fatty-liver-disease/
