Table of Contents
“ไวรัสตับอักเสบ” เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคตับที่คนไทยมักมองข้าม เพราะในระยะแรกโรคไวรัสตับอักเสบมักไม่แสดงอาการที่ชัดเจน หลายคนจึงไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเจอกับการติดเชื้อไวรัส ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจลุกลามจนเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง รวมถึงอาจทำให้เป็นมะเร็งตับได้
การรู้ว่าเชื้อไวรัสตับอักเสบมีกี่ประเภท แบบไหนร้ายแรงที่สุด และแต่ละชนิดติดต่อกันได้อย่างไร ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการป้องกันโรคตับอย่างถูกวิธี เพราะแม้ว่าเชื้อไวรัสบางชนิดจะสามารถรักษาให้หายได้ แต่บางชนิดก็อาจอยู่กับเราไปตลอดชีวิต การเข้าใจความแตกต่างและหมั่นดูแลสุขภาพตับอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
ไวรัสตับอักเสบคืออะไร ?
ไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis Virus) คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งจะเข้าไปทำลายเซลล์ตับโดยตรง ทำให้เกิดการอักเสบและส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติ และด้วยความที่ตับทำหน้าที่สำคัญหลากหลายด้าน ทั้งช่วยขับสารพิษ ย่อยไขมัน และควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นมา จึงทำให้การทำงานของตับลดลงตามไปด้วย
หากปล่อยให้เกิดการอักเสบเรื้อรังโดยไม่รักษา อาจพัฒนาไปเป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตับแข็ง หรือ มะเร็งตับ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตที่พบบ่อยในคนไทย
ไวรัสตับอักเสบมีกี่ประเภท ?
ไวรัสตับอักเสบแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบชนิด A, B, C, D และ E แต่ละชนิดมีเส้นทางการติดต่อและความรุนแรงที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ไวรัสตับอักเสบชนิด A (HAV) : ติดต่อผ่านอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส มักพบในพื้นที่ที่สุขอนามัยไม่ดี โรคนี้มักเป็นเพียงชั่วคราวและหายได้เอง ไม่พัฒนาเป็นโรคเรื้อรัง
- ไวรัสตับอักเสบชนิด B (HBV) : ติดต่อผ่านเลือด น้ำเชื้อ หรือจากแม่สู่ลูก เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในคนไทย หากติดเชื้อตั้งแต่วัยเด็กมีโอกาสกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรังสูง
- ไวรัสตับอักเสบชนิด C (HCV) : ติดต่อผ่านเลือด เช่น การใช้มีดโกน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือการใช้อุปกรณ์สักที่ไม่สะอาดและไม่มีการฆ่าเชื้อก่อนทำการสัก โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดนี้มักไม่แสดงอาการที่ชัดเจน แต่เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะตับแข็งและมะเร็งตับในระยะยาว
- ไวรัสตับอักเสบชนิด D (HDV) : เกิดร่วมกับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B เท่านั้น และจะเพิ่มความรุนแรงของโรคมากขึ้น
- ไวรัสตับอักเสบชนิด E (HEV) : ติดต่อผ่านทางอาหารและน้ำดื่มเช่นเดียวกับชนิด A อีกทั้งยังพบมากในผู้ที่บริโภคอาหารดิบ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์หรืออาหารที่ปรุงไม่สุก
ในจำนวนนี้ ไวรัสตับอักเสบชนิด A และ B สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ขณะที่ชนิดอื่น ๆ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน จึงควรเน้นการป้องกันด้านสุขอนามัยและตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ
ไวรัสตับอักเสบชนิดไหนร้ายแรงที่สุด ?
เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดที่อันตรายที่สุดคือ ไวรัสตับอักเสบ B และ C เพราะสามารถพัฒนาไปเป็นตับอักเสบเรื้อรังและลุกลามจนเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้ โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบ C ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ที่สำคัญผู้ติดเชื้อมักไม่รู้ตัว เนื่องจากมักไม่มีอาการในระยะแรก ทำให้เมื่อตรวจพบเชื้อก็อยู่ในระยะลุกลามแล้ว
อีกทั้งผู้ที่เคยได้รับการถ่ายเลือดหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้เข็มร่วมกัน หรือไม่ป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ ควรเข้ารับการตรวจเลือดและตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวังภาวะการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้
อาการของโรคไวรัสตับอักเสบ
โรคไวรัสตับอักเสบในระยะแรกอาการอาจไม่รุนแรง แต่เมื่อเชื้อเริ่มทำลายเซลล์ตับมากขึ้น จะเริ่มมีอาการที่ควรระวัง เช่น
- เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร
- ปัสสาวะมีสีเข้ม หรืออุจจาระสีซีด
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- รู้สึกแน่นบริเวณชายโครงขวา หรือปวดบริเวณตับ
วิธีป้องกันไวรัสตับอักเสบ
การป้องกันไวรัสตับอักเสบสามารถทำได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น
- หมั่นตรวจสุขภาพตับและตรวจเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง
- เข้ารับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ A และ B
- หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น เช่น มีดโกน เข็มฉีดยา หรืออุปกรณ์สัก
- รับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด งดดื่มแอลกอฮอล์
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ตับได้ฟื้นฟูและขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย และไม่เคยรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบ หรือมักรู้สึกอ่อนเพลีย แน่นท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบตรวจสุขภาพตับเพื่อความมั่นใจ เพราะโรคไวรัสตับอักเสบอาจกำลังคุกคามสุขภาพโดยที่คุณไม่รู้ตัว
LivPlus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยฟื้นฟูและบำรุงตับแข็งแรง
ปกป้องตนเองจากเชื้อไวรัสตับอักเสบ และอาการต่าง ๆ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้ค่าตับสูง จนเกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งและโรคอื่น ๆ เริ่มต้นจากการดูแลร่างกายตนเองอย่างรอบด้าน และเสริมด้วยอาหารเสริมบำรุงตับ Livplus ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น อาร์ทิโชก ขมิ้นชัน และใบแปะก๊วย ที่ช่วยลดการอักเสบของตับ ฟื้นฟูเซลล์ตับจากความเสียหาย และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อให้ตับของคุณกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตับฟรี โทร. 098-264-2464 หรือทักหาเราได้ที่ Facebook: Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand
ข้อมูลอ้างอิง
- ไวรัสตับอักเสบ A B C D และ E. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จาก https://www.vibhavadi.com/th/blogs/hepatitis-a-b-c-d-and-e
- ไวรัสตับอักเสบ ต้นเหตุของมะเร็งตับ. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จาก https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/hepatitis